ชื่อต๊อกนะครับ ตอนนี้ต๊อกอายุย่างเข้าปีที่ 22 แล้ว พ่อแม่ของต๊อกเพิ่งจะเลิกกันตอนก่อนที่ต๊อกจะเรียนมหาวิทยาลัย แต่พ่อของต๊อกก็ได้แต่งงานใหม่กับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งผู้หญิงคนนั้นก็ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่เลี้ยงของต๊อก เธออายุพอๆกับพ่อของต๊อกเลย และสิ่งที่เธอกับพ่อของต๊อกมีเหมือนกันก็คือเธอมีลูกติดมาด้วยหนึ่งคน ซึ่งลูกติดของเธอมีชื่อว่ากระดาษ และกระดาษกับต๊อกก็อายุเท่ากันเลย แต่ว่าต๊อกกับกระดาษยังไม่ค่อยรู้จักกันมากเท่าไหร่ เพราะว่าตอนที่พ่อแม่ของต๊อกเลิกกันตอนนั้นก็เป็นช่วงที่ต๊อกกำลังเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยพอดี และจังหวะที่พ่อของต๊อกแต่งงานใหม่ก็เป็นช่วงที่ต๊อกกำลังเรียนอยู่ ต๊อกก็ไม่ได้ไปงานแต่งของพ่อต๊อกกับแม่เลี้ยงของต๊อกด้วยซ้ำ ซึ่งโอกาสที่จะได้เจอกับแม่เลี้ยงและกระดาษก็เป็นช่วงที่ต๊อกกลับบ้านช่วงวันหยุดซึ่งบางครั้งเราก็แทบจะไม่ได้เจอกันเลย ในบางอาทิตย์ที่มีกิจกรรมเยอะเยอะต๊อกก็จะไม่ได้กลับบ้าน จึงทำให้ต๊อกกับแม่เลี้ยงและกระดาษซึ่งเป็นลูกติดไม่ค่อยได้พูดคุยกันเท่าไหร่ แต่ว่าทั้งแม่เลี้ยงของต๊อกและกระดาษก็ได้ย้ายมาอยู่ที่บ้านของต๊อกหลังจากที่พ่อของต๊อกแต่งงานกับแม่เลี้ยง ซึ่งโอกาสที่เราจะได้เจอกันมากขึ้นก็คงจะเป็นช่วงหลังที่ต๊อกเรียนจบ ซึ่งตอนนี้ต๊อกก็เรียนจบแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้มีโอกาสเจอกับกระดาษมากเท่าไหร่ เพราะว่ากระดาษนั้นได้งานทำอยู่ที่ต่างจังหวัด ส่วนตัวต๊อกเองก็มาช่วยพ่อทำธุรกิจอยู่ที่บ้าน ในช่วงที่โควิดกำลังระบาดหนัก ช่วงแรกต๊อกก็ได้เจอกับกระดาษบ้าง ซึ่งถือว่าเจอกันบ่อยกว่าตอนที่ต๊อกเรียนเยอะเลยแหละ เพราะว่าบริษัทของกระดาษให้พนักงานทุกคนในบริษัทเวิร์คฟอร์มโฮม ก็เลยทำให้ต๊อกได้เจอกับกระดาษบ้าง แต่ส่วนใหญ่กระดาษจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในห้อง เพราะว่าเธอต้องทำงาน แต่ตัวต๊อกเองก็ไม่ได้เป็นเหมือนในละครนะครับที่ว่าจะรู้สึกไม่ชอบแม่เลี้ยงหรือลูกติดที่มากับแม่เลี้ยงด้วย เพราะต๊อกมองว่าพ่อของต๊อกโตแล้วก็น่าจะคิดได้แล้วก็คงไม่เอาเรื่องต่างๆมาทำให้ปวดหัวไปวันๆ จนมาล่าสุดที่โควิดระบาดหนักรอบที่สาม กระดาษถูกไล่ออกจากงานเพราะว่าเศรษฐกิจในช่วงนี้กำลังย่ำแย่ รวมถึงงานมีน้อยแต่จำนวนพนักงานมีเยอะ จึงทำให้กระดาษต้องถูกไล่ออกและกลายเป็นคนว่างานและต้องมาอยู่บ้าน และเมื่อกระดาษถูกไล่ออกแล้วตกงาน ต๊อกก็ได้ทำความรู้จักกับกระดาษเยอะขึ้น จนมันทำให้ต๊อกรู้สึกหลงใหลในตัวเธอ